แก้วคริสตัล เกิดจากการเป่าขึ้นมา น้ำแก้วที่ถูกหลอมแล้วจะถูกเป่าเป็นรูปต่างๆตามที่ต้องการ แต่ในบางส่วนยังต้องใช้แม่พิมพ์ เช่นในส่วนของฐาน แก้วชนิดนี้จะไม่ปรากฏคลื่นและรอยต่อจากการหลอม เพราะว่าเป็นงานประดิษฐ์ด้วยมือ ขนาดที่ได้มาจึงหลากหลาย แก้วคริสตัลจึงใช้ทำแก้ว เชิงเทียน ตุ๊กตาซึ่งมีความสวยงามเป็นประกาย หรือใช้ทำเครื่องประดับ
แก้วโอปอล คือ แก้วที่มีการเติม NaF หรือ CaF2 เพื่อให้เกิดการตกผลึกในเนื้อแก้ว ทำให้แก้วมีความขุ่น โปร่งใส มีความทนต่อกรด-เบส
แก้วโซดาไลม์ คือ แก้วที่ประกอบด้วยซิลิกาประมาณ 70% Na2O ประมาณ 10% CaO ประมาณ 10% แก้วชนิดนี้ไม่ทนต่อกรด-เบส ยอมให้แสงขาวผ่านแต่ดูดกลืนรังสีอัลตราไวโอเลต
แก้วโบโรซิลิเกต คือ แก้วซึ่งมีโบรอนออกไซด์เป็นองค์ประกอบ เพื่อลดสัมประสิทธิ์การขยายตัวเนื่องจากความร้อน ทำให้ทนอุณหภูมิสูงได้ ทนการกัดกร่อนของสารเคมี ซึ่งใช้กับเตาไมโครเวฟได้
เนิ้อพอร์ซเลน คือ ดินงานปั้นที่มีความเหนียวดีแต่ไม่โปร่งแสง หรือดินที่เหมาะสำหรับงานหล่อที่มีความขาวและโปร่งแสง โดยทั่วไปแล้วดินกลุ่มพอร์ซเลนจะเหมาะกับการเผาที่อุณหภูมิประมาณ 1260-1300 ํC ในบรรยากาศการเผาแบบรีดักชั่น
เนื้อสโตนแวร์ เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการ เลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน เนื้อดินสโตนแวร์แบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่
– ดินสโตนแวร์ธรรมดา
– ดินสโตนแวร์เนื้อขาว
– ดินสโตนแวร์เนื้อแดง
– ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่
– ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่
เนื้อโบนไชนา เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาที่มีสีขาวชนิดหนึ่งซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าผลิตเซรามิก สีขาวประเภทอื่น เพราะมีเนื้อละเอียดและมีความโปร่งแสง อุณหภูมิการเผาประมาณ 1,200 – 1,300 องศาเซลเซียส ขณะที่การเผาเคลือบจะใช้อุณหภูมิต่ำกว่า 1,080 องศาเซลเซียส